ขึ้นบันไดอย่างมั่นคง

16 ธ.ค. 55 / 1241 อ่าน

พยายามกันจริงนะพ่อแม่ พยายามฝึกลูกให้ขึ้นบันไดตั้งแต่อายุ 1 ขวบคลานได้ก็ฝึกกันใหญ่ ฝึกให้ขึ้นได้สำเร็จตอนอายุ 2 ขวบขึ้น ดีใจกันใหญ่ แต่ระหว่างฝึกนั้นเด็กตกลงมาหัวร้างข้างแตกกันไป ส่วนเพื่อนบ้านสอนให้เด็กมีพัฒนาการสมวัยตอนช่วงอายุ 1-2 ขวบ พัฒนากล้ามเนื้อแขน กล้ามเนื้อขา กล้ามมัดใหญ่มัดเล็ก เมื่อถึงอายุ 2 ขวบเดินขึ้นบันไดได้เองปร๋อเลย แถมวิ่งขึ้นวิ่งลงได้อย่างสบาย เป็นพื้นฐานนำสู่ความเป็นนักกีฬาที่ดีต่อไปอีกด้วย ในระยะยาวเก่งกว่าเด็กที่เอาแต่หัดขึ้นบันไดทั้งๆที่ยังไม่พร้อม   วันนี้หลายคนพยายามทำนั่นทำนี่ ตามดูนามธรรม(เวทนา จิต ธรรม) ถูกลากไปทั้งที่ใจก็ไม่ตั้งมั่นไม่แข็งแรง นิวรณ์ก็ยังตามถล่มหาที่ยืนไม่ได้ เหมือนพยายามขึ้นบันไดทั้งๆที่ไม่มีวุฒิภาวะเลย หลงทำแล้วคิดว่าดี คนป้อนคนบอกก็อาจจะไม่ดูเลยว่าอาหารที่ป้อนเหมาะกับคนแบบไหน ให้อาหารรวมๆกันมา จึงพากันเดินวนไม่ไปไหนกันสักที มัวมั่วแก้สภาวธรรมตรงหน้าแบบไม่ดูองค์รวม   วันนี้ในอริยมรรคมีองค์๘ มีการกระทำอย่างเป็นระบบเป็นรูปแบบที่พระพุทธเจ้าใช้คำว่า โยคกรรม สามารถชำระกิเลสจนหลุดพ้นไปได้ด้วยความเข้าใจอย่างถูกต้อง ทำอย่างถูกต้องไม่ได้ทำเพราะอยากทำหรือทำตามๆกันมา   วันนี้หากเริ่มต้นมาดูแลที่กาย วาจา ไม่ให้ทำทุจริตคืออย่าทำผิดศีล ทุกครั้งที่อดทนอดกลั้นที่จะไม่ทำผิด นั่นก็ฝึกให้จิตตั้งมั่นแข็งแรง เมื่อนานไปนานไป ทุจริตทางกายวาจาเบาบาง มันจะมาเห็นที่จิตใจได้ไม่ยาก เพราะระหว่างที่ใช้ศีลกำกับกาย วาจานั้น ใจมันจะเกิดทมะความข่มใจขึ้นด้วย ตอนนั้นมันก็สลับกันมาเห็นได้เอง เมื่อเวลาผ่านไป เมื่อใจขยับอยากจะพูดหรือกระทำออกไปสิ่งผิดๆออกไป ก็จะเกิดสติขึ้นมาจัดการได้เองโดยไม่ต้องออกแรงจงใจมาก กิเลสก็อ่อนกำลังลง ก็เริ่มละอกุศลออกได้เรื่อยๆจนเบาบาง   เพียงเท่านี้การปฏิบัติตามมรรคคือการมีศีลจากปัญญา ศีลก็จะเป็นบาทฐานให้สมาธิคือระดับจิตใจต่อไป ทำอย่างนี้ไปต่อเนื่อง ชำระให้ได้มากๆ เมื่ออกุศลในใจเบาบาง นิวรณ์ก็จะค่อยๆหายไปไม่มารบกวน จิตจะเริ่มเดินเข้าสู่ปฐมฌาณได้ เมื่อจิตตั้งมั่นการไปเห็นว่า กาย เวทนา จิต ธรรมเกิดดับ ว่างจากตัวตน นั่นก็เกิดขึ้นได้ไม่ยากเย็น   แต่วันนี้ทำอะไรกันไม่ดูมรรคที่พระพุทธเจ้าตรัสไว้ อยากทำนั่นทำนี่ เขาว่ากันว่าดีอย่างนั้นอย่างนี้ ชอบของสุดยอดคำภีร์ ต้องเจริญสติปัฏฐานนั่นล่ะถึงจะเป็นวิปัสสนา ทำอย่างนั้นมันสมถะ โธ่เอ๋ยถ้าจิตไม่ตั้งมั่นด้วยสมถะจะเอาอะไรไปรู้ไปดูให้เห็นการเกิดการดับ เห็นความเป็นอนัตตา เอาอย่างนี้ เทคคอร์สเข้าห้องเรียนให้ตรงความรู้เชื่อเถอะว่า หากเราปฏิบัติให้ถูกตามที่ควรจะไปได้เร็วกว่าพวกที่เดินผิดขั้นผิดตอนแน่นอน   ไวพจน์คือคำที่มีความหมายเดียวกันของมรรคมีองค์๘ที่พระพุทธเจ้าตรัสไว้คืออะไรรู้ไหม..คือ สมถะและวิปัสสนา นั่นคือมรรคองค์ที่ ๗ สัมมาสติและมรรคองค์ที่๘ สัมมาสมาธิ และพระองค์ย้ำว่าเมื่อผู้นั้นมีศีลบริบูรณ์ 2012-12-16