ผู้อยู่เหนือโลก

5 พ.ค. 56 / 1317 อ่าน

ผู้คนทั้งหลายตกอยู่ภายใต้กระแสแห่ง ลาภ เสื่อมลาภ ยศ เสื่อมยศ สรรเสริญ นินทา สุข ทุกข์ ไม่มีใครที่ออกจากกระแสธรรมชาตินี้ได้ เพราะไม่เห็นว่าสรรพสิ่งทั้ง8 เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นตามเหตุตามปัจจัย ไปหลงคร่ำครวญ หลงเลียซากในสิ่งเหล่านั้นทั้งในทางบวกและลบ เมื่อไปให้ค่าในฝั่งทุกข์ ก็ต้องโดนสุขเล่นงานจนเป็นทุกข์เพราะไปหลงยึดมันด้วย หากคิดจะเอาแต่สุข ทุกข์ไม่เอา ก็ต้องโดนทุกข์เล่นงานอีก   เพราะทั้งหมดมาจากหน่อเดียวกัน ทั้งหมดอยู่บนความไม่เที่ยง แปรเปลี่ยนไปตามเหตุปัจจัย มีสภาพไม่เสถียร ไม่คงที่แปรปรวนไปตามเหตุที่มาจากสิ่งแปรปรวนมา กระทบ   เปรียบเสมือนลูกบอลล์ที่กลิ้งไปมาเพราะแรงลมบ้าง แรงสะเทือนของพื้นบ้าง เดี๋ยวมีคนผ่านมาก็เตะบ้าง แล้วความสุขทั้งหลายที่เราไขว่คว้าปรารถนาอยากได้ อยากให้คงอยู่นั้นขึ้นกับเหตุปัจจัยอะไรล่ะ ใจของเราก็กลิ้งไปมา อยากให้คนนั้นรักเราถาวร ใจของเขาก็กลิ้งไปมาทั้งวันเหมือนกัน หรืออยากให้สุขภาพสมบูรณ์ จะได้อย่างไรเพราะกายของเราเปลี่ยนแปลงทุกขณะตามเหตุปัจจัยที่กระทบทั้งการเปลี่ยนแปลงตามกาล ทั้งอาหาร อุณหภูมิ สภาพแวดล้อมที่เป็นพิษขึ้นทุกวัน ความเครียดที่รุมเร้าในทุกเรื่อง   ทุกอย่างที่เราต้องการให้ความสุขนั้นนิ่งอย่างใจ มันจึงเป็นไปไม่ได้เลย มันคือลูกบอลล์ตั้งบนลูกบอลล์ ตั้งบนลูกบอลล์ ตั้งบนลูกบอลล์ เมื่อลูกหนึ่งขยับทุกลูกขยับ เมื่อขยับก็ไม่สามารถรักษาสมดุลย์ได้ก็จะพยายามปรับสมดุลย์ใหม่ตลอดเวลา แล้วท่านว่าชีวิตท่านตั้งอยู่บนบอลล์กี่ลูก แล้วแต่ละลูกไปตั้งอยู่บนลูกอื่นๆอีกนับไม่ถ้วน อย่างนี้คือธรรมชาติความเป็นจริงของอนัตตา ผลอันหลากหลาย มาจากเหตุอันหลากหลาย ทุกสภาพแต่ละขณะไม่ใช่ตัวตนของมันเองแต่มีขึ้นจากเหตุปัจจัยทุกขณะ จะเอาสุขที่ไหน เพราะทุกข์ได้ทุกลมหายใจ ทุกวันนี้ไม่เป็นไรพอทำใจได้ ถ้าอย่างนั้นต้องทำใจทุกเรื่องเลยแล้วที่ผ่านมาก็โดนการเปลี่ยนแปลงทิ่มใส่ทุกเรื่องไม่หยุดทั้งเรื่องพอทนได้ กับเรื่องที่ทนไม่ได้กับเรื่องที่ทนไม่ได้อาจจะกำลังตามเข้ามา   ดังนั้นผู้เห็นความจริงเข้าใจความจริงอย่างนี้ จึงปล่อยความยึดมั่นในตัวตน ไม่สร้างความยึดถือ เข้าใจความจริงของธรรมชาติ แม้นเราเองก็เป็นธรรมชาติ ใครๆก็เป็นธรรมชาติ เป็นกลุ่มลูกบอลล์ที่มีเครือข่ายกว้างขวางใหญ่โต แค่ตัวเองก็ดิ้นไปมาจะแย่อยู่แล้วราวกับเล่นกายกรรม มันเป็นกรรมของกาย(ต้องแถมใจเข้าไปด้วย) เท่านั้นไม่พอ เราดันเอากลุ่มบอล์ไม่เสถียรของเราเข้าไปผูกติดกับกลุ่มบอล์ของคนอื่นๆ อื่นๆ อื่นๆ... ออกไปอีก แล้วจะไม่ทุกข์อย่างไร ความไม่เสถียรจึงรวมกำลังกันมโหฬาร   เมื่อวางความยึดมั่นได้ จึงไม่ไปตามกระแสโลก บอลล์มันจะกลิ้งไปกลิ้งมาบนกันและกันเชื่อมโยงกันเป็นพันเป็นหมื่นเป็นแสนเป็นล้านลูก ก็เป็นไปตามเรื่องของมัน ไม่ได้คิดจะให้มันเป็นสุขอีก เพราะมันจะสุขอย่างไรได้บนความไม่เสถียรแบบนี้ที่เชื่อมโยงกัน เห็นอย่างนี้จึงปล่อยวาง เมื่อปล่อยวางก็พอ เข้าใจความจริงไม่ไหลไปตามการเปลี่ยนแปลงของโลก จึงเป็นผู้อยู่เหนือโลก ที่บาลีใช้คำว่า โลกุตตระ โลกทำอะไรไม่ได้อีกต่อไป ปฏิบัติธรรมให้จริงจังเถิดจะได้พ้นไปจาก Circus ละครสัตว์(โลก) ที่พวกเราเข้าไปแสดงกันเอง 2013-05-04