ถ้ามีความทุกข์ ให้ไปนั่งตากยุง

18 ส.ค. 56 / 864 อ่าน

วันที่ 18 สิงหาคม พ.ศ. 2556   เวลาทุกข์เรื่องราวที่ทำให้ทุกข์จะรบกวนใจตลอดเวลา เช่นใครทะเลาะกับใครอย่างรุนแรง เราจะเห็นว่าเราจะหวนคิดถึงเรื่องนั้นวนไปเวียนมาไม่จบไม่สิ้น ไม่ว่าจะรู้ลมก็แล้ว พยายามทำนั่นทำนี่ก็แล้ว เรื่องราวที่ทำให้ทุกข์ก็ยังคงถาโถมใส่เหมือนคลื่นกระทบใส่โขดหินไม่มีหยุดหย่อน ราวกับไร้ความปราณีและเห็นใจ ส่งผลให้เราทุกข์ซ้ำแล้วซ้ำอีก ราวกับทุกข์จะเกิดสืบเนื่องไม่เคยดับหายไปไหนเลย   ออกไปนั่งนอกบ้านซิ เดี๋ยวยุงจะมาช่วย !! ตัวที่ 1 ตัวที่ 2 อาจจะยังไม่รู้สึกเพราะใจยังง่วนวนอยู่กับทุกข์ แต่พอเริ่มโดนรุมกัด ทีนี้ล่ะ จิตจะเปลี่ยนที่เกาะล่ะ มันจะวางเรื่องราวที่หลงวน กลายเป็นมาเกาะกับความเจ็บ ความคันแทน มันจะวางเนื้อเรื่องมาเกิดกับความหงุดหงิดเพราะยุงแทน   แต่..คนโง่ก็จะทวีความโกรธมากขึ้นเพราะกำลังร้อนใจกับเรื่องเดิมอยู่ เรื่องใหม่คือยุงจะโหมไฟในใจให้หนักขึ้น   แต่..คนมีปัญญาจะเห็นว่า เรื่องที่กำลังหลงวนออกไม่ได้นั้น กลับหายวับไปซะอย่างนั้น มันเปลี่ยนมาอยู่อาการคันและยุงที่มากัด ใครตั้งมั่นเห็นอย่างนี้ อานิสงค์คือเห็นการเกิดดับของอารมณ์ เห็นว่ามันเป็นอนัตตา อารมณ์ทั้งหลายหรือความทุกข์ทั้งหลาย ล้วนเกิดขึ้นดับไป เมื่อมีเหตุก็เกิด หมดเหตุก็สลาย เหตุใหม่มากระทบก็เกิดผลใหม่ซึ่งไม่ใช่ของเก่า ผลอันเกิดจากยุงนี่เป็นของใหม่ที่เกิดขึ้น มีแต่ของเกิดดับ ความรู้สึกทุกข์ไม่ได้มีตัวตนนี่ เราโง่ไปปรุงมันขึ้นมาเองเป็นของเรา ไปยึดถือขึ้นมาเป็นของเราเอง   หากเราพยายามจะไปจัดการกับเนื้อเรื่องที่เขามารบกวนใจ มันกลับทำไม่ได้ แน่ถ้าเราเห็นความจริงจากสภาพธรรมที่เกิดขึ้นจริงๆได้ นั่นจะทำให้เราเกิดปัญญาปล่อยวางได้ แต่จิตต้องตั้งมั่นไม่ไหลไปในเนื้อเรื่อง นี่มาจากสมาธิที่ฝึกๆกันมา   นี่อาจจะทำให้เกิดข้อคิดมุมมองที่เกิดจากความตั้งมั่น ไม่งั้นก็จะหงุดหงิดซ้อนเป็นอกุศลเพิ่มเข้าไปอีก เมื่อมีจิตใจที่ตั้งมั่นจนวันข้างหน้าค่อยๆเห็นความจริงมากขึ้น สามารถปล่อยวางความสำคัญผิดที่สั่งสมมายาวนานลงได้ ยุงอาจจะเป็นครู แต่มันคงไม่รู้หรอกมั้ง ที่มันทำเพราะมันต้องการหาอาหารเท่านั้นเอง คงไม่ต้องไปตามยกมือไหว้ยุงหรอก เพราะงานนี้ปัญญาเกิดที่คนมีปัญญา ที่ไม่ใช่เรา