เบื่อรถติด..เบื่อไฟแดง..ถ้างั้นเอาแบบเขียวทุกทางน่าจะดี

3 มี.ค. 54 / 1166 อ่าน

ไฟแดงอีกแล้ว สงสัยออกจากบ้านก้าวเท้าผิด..มิน่าจิ้งจกทักวันนี้เจอทั้งไฟแดงทั้งรถไฟ ใครๆก็ชอบไฟเขียว ตำรวจนี่โง่จริงๆทำไมเรื่องแค่นี้ไม่รู้ว่าคนชอบไฟเขียวไม่ชอบไฟแดงน่าจะ ประชานิยมซะหน่อยเปิดไฟเขียวมันซะทุกด้านทุกแยกเลย คนจะได้สรรเสริญ คนมีปัญญาก็จะรู้ล่ะว่าอะไรจะเกิดขึ้น (ไม่มีปัญญาก็รู้ ถ้าเรื่องแค่นี้) แล้วบ่นอะไร? เวลาเรารอไฟแดงมันหงุดหงิดร้อนใจ บางคนเถียงในใจว่าฉันไม่เป็นเลยจริงๆฉันเฉยๆ นั่นก็แย่พอกันล่ะ ทำไม? เพิ่มโจทย์เข้าใจอีกหน่อยจะได้รู้จักกิเลส เอาคนที่คุณรักใส่เข้าไปในรถแล้วกำลังป่วยหนักต้องถึงมือหมออย่างเร็วที่สุด หรือมีนัดสำคัญที่พลาดไม่ได้ ตอนนี้เป็นอย่างไร ถ้ายังไม่ขยับตอนไฟแดงที่หนึ่ง วิ่งไปสักพักแดงอีกแล้วนานด้วยซิ กว่าจะขยับไปได้อีกหน่อยแดงอีกแล้ว คนเราเวลาโดนหมาล่าเนื้อขย้ำตัวแรกพอทนแต่พอตัวที่สองตัวที่สามมันจะหลุดล่ะ ทีนี้ ไม่เคยมีไฟแดงครั้งไหนไม่เขียว ทำไมต้องแดงด้วย ตำรวจเองก็คงไม่อยากถูกด่าหรอกเชื่อเหอะ ทุกวันนี้เราได้สิ่งที่ไม่ควรจะได้มาจากความโง่ของเราเองคือทุกข์ คุณเคยทราบไหมว่ามีคนมีความสุขจากไฟแดงมากมายในท้องถนน จะด้วยมุมมองที่ถูกหรือเหตุการณ์มันเป็นอย่างนั้นก็ตาม เข่น กำลังจะโทรหาลูกค้าหรือเจ้านาย บางคนเช็คเมลส่งเมลระหว่างรถติด หนุ่มสาวเพิ่งเดทกันนั่งจีบกัน บ้างป้อนข้าวลูก กินข้าวเช้า แต่งหน้า ปัดขนคิ้ว ทาเล็บ สารพัด คนเหล่านี้มีความสุขเวลารถติดไฟแดง แต่ก็โง่อยู่ดีเพราะอยากให้แดงนานๆทั้งๆที่รู้อยู่แล้วว่าไฟจะแดงจะเขียวมัน ไม่เกี่ยวกับอยากของใคร ทุกข์มาทั้งขึ้นทั้งล่องทั้งเฉยๆ ไฟเขียวมาถึงแน่นะโดยไม่ขึ้นกับ อยาก(ให้เขียวไวๆของใคร)หรือไม่ขึ้นกับไม่อยาก(ให้เขียวเพราะธุระยังไม่ เสร็จ) ดังนั้นทั้งอยากและไม่อยากไม่เกี่ยวกับไฟจะแดงไฟจะเขียวเลย ที่ต้องแดงก็เพราะมีเหตุให้เกิด สุดท้ายก็ต้องเขียวเพราะมีเหตุ ลมหายใจเข้าอึดอัด ลมหายใจออกผ่อนคลาย เอาลมออกอย่างเดียวดีไหมล่ะ เข้าใจโลกตามจริง อย่าตั้งค่าอย่าหลงโลกเข้าใจสรรพสิ่งตามจริง ทุกข์ไม่เกิด โลกนี้ไม่ได้เป็นไปตามใจเรา เขาเป็นของเขาอย่างนั้นแค่บังเอิญถูกใจเราที่ตั้งไว้เองจึงเกิดเป็นพอใจและ ไม่พอใจหรือกลางๆเท่านั้นเอง เมื่อวางไม่ยึดถือเข้าใจเหตุ จะเกิดการปล่อยความยึดถือ สภาพทุกอย่างจะเป็นไปตามเหตุปัจจัย เราทำได้นะด้วยการทำเหตุ ทำแต่เหตุที่เป็นกุศล ทำอะไรอยู่บนความถูกต้อง ลูกน้องนิสัยไม่ดี ลูกนิสัยไม่ดีก็ต้องดุต้องว่าแต่ไม่ต้องไปโกรธไปแค้นให้ลงนรกทั้งเดี๋ยวนี้ และอนาคต การปล่อยวางเขาใช้วางความยึดถือภายใน ไม่ใช่วางการกระทำที่ถูกต้องภายนอก ถ้าวางการกระทำที่ถูกต้องนั้น เขาเรียกว่าปล่อยปละละเลย ไฟแดงต้องเขียวแน่ ทำงานถ้ามี 9 โมงเช้ามี 5 โมงเย็นแน่ ไปท่องเที่ยววันแรก วันสุดท้ายมาถึงแน่โดยไม่ขึ้นกับอยากให้ถึงหรือไม่อยากให้ถึงของใคร แล้ววันสุดท้ายหรือวันตายมาถึงแน่ไหม มาถึงแน่ แต่ความตายเป็นสิ่งแน่นอนไหม?..ไม่แน่ เพราะไม่มีความตายใน.......นิพพาน วันใดที่ปล่อยความยึด ถือในกายนี้(รูป) ในใจนี้ (เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ) สิ่งทั้งปวงจะหลุดออกเป็นอิสระ จริงๆจะว่าอิสระเขาอิสระของเขาอยู่ทุกวินาที แต่จิตโง่ที่ไปยึดถือตัวจิตเองเป็นตัวตนเพราะมีอวิชชาคือความไม่รู้ว่านี้ ทุกข์ นี้เหตุให้เกิดทุกข์ นี้ความดับทุกข์ นี้ทางดำเนินให้ถึงความดับแห่งทุกข์ จึงต้องหลงเดินทางเลียซากร่อง รอยของโลกไปเรื่อยๆ หยุดใส่ฟืนในรถจักรไอน้ำ รถจักรไอน้ำจะยังไม่หยุดทันทีเพราะยังมีแรงขับเคลื่อนจากของเดิม ขันธ์นี้จึงยังอยู่ต่อไปแม้ไม่ใส่ฟืนอีก ยังมีความรู้สึกในขันธ์นี้ เพราะความเคยคุ้นในขันธ์กันเอง แม้จะปล่อยวางจนที่สุดแล้วก็ตามจึงเรียก สอุปาทิเสสนิพพาน แต่เมื่อขันธ์หมดความรู้สึกอย่างเบ็ดเสร็จหมดความรู้สึกสุขทุกข์ในขันธ์เอง จึงเรียก อนุปาทิเสสนิพพาน ขันธ์จะยังทรงอยู่หรือดับไปจริงก็มีค่าเท่ากัน ไม่ว่าจะแบบไหน อุปาทานขันธ์ก็ไม่มีแล้วไม่ยึดถืออีกแล้ว ที่เหลือเรื่องของขันธ์ล้วนๆไม่มีเราในอะไรๆทั้งสิ้น เลีย ซาก : โทรศัพท์คุยกับแฟนทะเลาะกันวางหูแล้วจบไหม ไม่จบนั่งเลียซากอยู่มันผ่านไปแล้ว ?เปลี่ยนเป็นคู่รักหวานชื่น เพิ่งรักกันพูดจบแล้วนั่งปลื้มอยู่ก็เลียซากอยู่นั่นเอง วันๆนั่งเลียซากทั้งวัน ที่ทำๆกันอยู่นี่เป็นวิสัยพวกกินซากนะ เลิกเหอะ..ทำไมถึงต้อง รู้ลม ละไว ไม่ไหล ไม่คร่ำครวญ เพราะอะไรรู้รึยัง เพราะมันจะหยุดนิสัยเลียซาก กินซาก (มีผู้อ่านฝากมาว่า อยู่บนฟ้าเขาเรียก "แร้ง" ถ้าสี่ขาบนพื้นเขาเรียก "ไฮยีน่า" แต่ถ้ากินอยู่แต่ไม่รู้เขาเรียก "คน" อันหลังนี่ผมช่วยเติมให้ อย่าโกรธนะ)