น้ำราดมด

วันนี้ ได้แต่แสดงความเห็นใจกับทุกๆคน ภัยพิบัติน้ำท่วมในครั้งนี้จะส่งผลกระทบไปเป็นวงๆ ไม่จำกัดอยู่เพียงคนที่โดนเท่านั้น เมื่อทุกภาคส่วนโดน พื้นที่เกษตรโดน โรงงานอุตสาหกรรมก็โดน คนก็ไปทำงานไม่ได้ อาหารก็ขาด ไฟก็ต้องดับ พวกเราจะได้พบกับสภาพที่เราไม่เคยคิดว่ามันจะเกิดขึ้น เห็นภาพแล้วเหมือนกับคนเอาน้ำถังใหญ่ราดมดที่เทอเรสหน้าบ้าน แล้วมดพยายามหาก้อนหินเล็กก้อนกรวดเล็กๆกั้นน้ำเอาไว้ แต่ในที่สุดมดก็อ่อนแรงแล้วยอมรับในความยิ่งใหญ่ที่มดเคยคิดว่าสามารถควบคุม ให้ทุกอย่างอยู่ภายในบงการได้ทั้งหมด นี่ก็เห็นได้แล้วในวันนี้ ปีหน้า ปีต่อไป ปริมาณขนาดนี้ก็ยังคงมีอยู่ ทุกคนคงจะมีของชั้นล่างน้อยลงมาก ของส่วนใหญ่จะไปกองกันอยู่ชั้นบนของบ้าน ไม่ใช่ว่าน้ำมันจะเยอะปีนี้ปีเดียว โลกนี้เกิดขึ้นตามเหตุปัจจัย ภัยนี้ก็เป็นไปตามเหตุปัจจัย อากาศและกระแสน้ำเปลี่ยนไป สภาพแวดล้อมและผลก็เกิดตามเหตุ ดังนั้น เมื่อน้ำมาก มากขึ้น มากที่สุด ก็จะเปลี่ยนเป็น น้อยลง น้อยลงๆ เพราะสรรพสิ่งปรับไปตามสภาพที่ดิ้นรนเป็นอนิจจัง ภัยเวร 5 ประการที่พระพุทธองค์กล่าวเตือนไว้ เราคงพอจะเห็นภาพได้ไม่ยากแล้ว ทุกคนที่บ้านช่องทรัพย์สินโดยภัยพิบัติคงไม่มีใครมาเจริญภาวนากัน ไม่มีกระจิตกระใจแล้ว ท่านจึงให้ทุกคนไม่ประมาท รีบทำให้แจ้งก่อนที่จะเกิดขึ้น ครั้งนี้น่าจะเป็นเผาหลอก เผาจริงเมื่อไหร่ น้ำตาคงจะท่วมซ้ำลงไปอีก ผมเองกองหนังสือสารพัดไม่ว่าชองหลวงพ่อ หนังสือธรรมะต่างๆ รวมทั้ง ดูจิตหนึ่งพรรษา กลัวเกิดไม่กลัวตาย(แต่กลัวน้ำ)ฯลฯ จะท่วมก็ไม่มีปัญหา เพราะแม้จะดูบวมน้ำไปบ้างแต่ก็อ่านออก สบายมาก คราวก่อนหนังสือดูจิตหนึ่งพรรษาโดนปลวกกินเป็นรูๆเต็มไปหมดเลย คนแย่งกันเลยเอาที่ปลวกกิน หาว่าดูขลังดีให้เปลี่ยนเอาเล่มดีๆให้ก็ไม่เอา ในวิกฤติมีโอกาสอยู่ ดูดีๆ ได้แต่ขอเป็นกำลังใจให้ทุกคน บททดสอบนี้จะผ่านหรือไม่ก็ขึ้นกับแต่ละคน ความจริงของทั้งหมดก็คือ สิ่งต่างๆเกิดขึ้น เราทำอย่างดีที่สุด ไม่ใช่ทำใจแล้วไม่ทำการใดๆ ทำการใดๆให้เต็มกำลัง ภายใต้จิตใจที่เข้มแข็ง เสียก็ยอมรับว่าเสีย แล้วค่อยแก้เท่าที่แก้ได้ แก้ไม่ได้ทุกเรื่อง ก็แก้ไขไปทีละเรื่อง ช่วยทุกคนที่ช่วยได้ อยู่กับภัยด้วยใจสงบ อยู่เป็นหลักให้คนรอบข้าง ไม่หวั่นไหว ขอให้จิตใจและความปรารถนาดีของพวกเราทุกคนช่วยให้ทุกๆคนที่กำลังลำบากได้พ้น ภัยด้วย เทอญ