พรากออกจากกามแบบอยู่กับกาม

3 มี.ค. 54 / 1058 อ่าน

วันนี้หากเราเอาธงพระนิพพานตั้งไว้แล้วจะเดินทางไปให้ถึง เรื่องสำคัญเรื่องหนึ่งที่เราต้องดำริถึงคือการพรากออกจากกามหรือเนกขัมมะ วันนี้ทุกคนที่ใช้ชีวิตอยู่ทางโลก นั้นไม่สามารถที่จะพรากออกจากสิ่งยึดติดนี้ได้ หากเราพรากได้อย่างพระ การเดินทางเข้าหาธงชัยนั้นก็คงทำได้สะดวกขึ้น ดังนั้นใครก็ตามเห็นความจริงข้อนี้จะเห็นความจริงในลำดับต่อไปว่า ถ้าเราเทียบกับความเป็นพระในธรรมวินัยของพระพุทธเจ้าแล้ว การเป็นพระน่าจะเดินทางได้ง่ายกว่า (ต้องพระแท้นะ) เพราะการพรากจากกามแบบหักดิบแล้วอดทนอดกลั้นฝืนทนจนเป็นปรกติ เหมือนกับคนจะเลิกยาเสพติด จะโหยหาลงแดง ดังนั้นต้องอดทนอดกลั้นมากแต่ผู้ที่อดทนจนเลิกไปได้แล้วก็จะเป็นกำลังใจและ สรรเสริญการกระทำของบุคคลนั้น ทีนี้กลับมาที่เรา ในเมื่อทำอย่างพระไม่ได้ เครื่องร้อยรัดก็เต็มไปหมดจึงต้องใช้ปัญญาในการพรากแทน พระพุทธเจ้าตรัสไว้ว่าจะละจากสิ่งใดใช้ถอนฉันทราคะในสิ่งนั้น ฉันทราคะก็คือความยินดีพอใจในสิ่งนั้น สิ่งนั้นก็จะกลายสภาพเป็นของว่างหมดอิทธิพลทางใจต่อเรา เรา ลองมาสังเกตดูเองว่าอะไรมีอิทธิพลต่อจิตใจของเราบ้าง อะไรทำให้ใจเราคอยโหยหา หวนหาอยู่เรื่อยๆ เช่นอยากได้กระเป๋า ภาพกระเป๋าก็จะมาวนเวียนเวียนวนอยู่ไม่หยุดหย่อน ชอบรับประทานของดีๆอร่อยๆ เผลอๆก็จะอยากกินสิ่งนั้นๆ บางท่านอาจเห็นเป็นเรื่องเล็กๆ แต่เรื่องพวกนี้เมื่อสะสมไว้มันกลายเป็นกำลังที่ทรงพลังของอวิชชา นี่คือทำไมพระพุทธเจ้าจึงสรรเสริญสาวกที่เห็นโทษภัยแม้เพียงเล็กน้อย สมาธิ ละราคะ ลองดูทีวีไปรู้ลมไปซิ จะรู้เองเลยว่าความสนุกหรือความพอใจมันหายไป เมื่อความตั้งมั่นมีอยู่จะรู้เองว่าขณะที่ยินดีพอใจนั้นใจไหลไปกับราคะและ ความเพลิน ที่เราบอกว่าสุขนั้นเราจึงติด เมื่อไม่ได้ก็ทุกข์ถ้าไม่ได้ออกผลในเรื่องนั้น ก็จะไปออกผลในเรื่องอื่่นต่อไป เนกขัมมะในชีวิตบ้าง อย่างปล่อยให้ไหลไปกับโลกมากนัก อย่าเจ้าเหตุเจ้าผลนักเลยเพราะเหตุผลทั้งหลายนั้นล้วนปกป้องให้กิเลสทั้งนั้น