ตายอยู่แล้วไม่มีไม่ตาย

3 มี.ค. 54 / 1116 อ่าน

ใน เมื่อคนเราก็ตายอยู่แล้ว ทุกๆวันนี้กายเราก็บูดเน่าทุกวัน แต่มันยังสร้างเซลล์ใหม่ขึ้นมาสู้ได้ตลอด จึงทำให้ชีวิตยังดำรงอยู่ได้   วันนี้หากเรามองตามความเป็นจริง ชีวิตของทุกคนนั้นกำลังนับถอยหลังสู่วันสุดท้ายกันทุกคน ไม่ได้เกี่ยวกับภัยพิบัติ 2012 เลย เรื่องของเรื่องจะอยู่ถึงวันนั้นไหมยังไม่รู้เลย   เมื่อไม่กี่วันก็มีผู้ที่กำลังจะตายโทรหาผม ให้ช่วยชี้ทางสงบบนเตียงในโรงพยาบาลก่อนจะจากโลกนี้ไป นี่ก็เป็นอีกคนที่ไม่เห็นต้องรอ 2012   หากเราตายแน่ๆอยู่แล้ว ทำไมไม่ทำเวลาที่เหลือให้มันดีที่สุดล่ะ   คน เราเลือกเกิดได้ไหม? ถ้าการเกิดเป็นผล แสดงว่าต้องมีเหตุ เหตุคือการทำอะไรๆในทุกๆวินาทีของเรานั่นเอง จะทำวินาทีไหนล่ะ? ก็วินาทีนี้แหละ   ถ้าจะเลือกเกิดใน สุคติภูมิเช่นมนุษย์ เทวดา พรหม ก็เป็นผู้มีศีล ละลายเกรงกลัวต่อบาป เจริญภาวนานั่งสมาธิเดินจงกรม มีสติรักษาจิต ละอกุศลเจริญกุศล ทำประโยชน์ช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์   ใครๆก็คงไม่อยากเกิดเป็นเดรัจฉาน แต่เหตุเกิดให้เป็นเดรัจฉานก็คิอ โมหะ ความหลง เผลอ เหม่อนั่งคิดโน่นคิดนี่จนใจเป็นทุกข์ ไม่มีสติจะระลึกว่าเผลอเหม่อไป อยู่กับเหม่อเป็นเวลานานๆแล้วก็เป็นทุกข์   หรือว่าใครอยากเป็นเปรต เหตุเกิดเป็นเปรตก็มาจาก โลภะความโลภ อยาก ไม่สิ้นสุด อยากจนจิตใจเร่าร้อน เห็นใครเขาทำบุญทำกุศลก็เที่ยวไปเสียดายแม้นเงินผู้อื่น คอยพูดขัดขวางการกระทำบุญกุศลของคนอื่น คดโกงยักยอกเงินที่ไม่ใช่ของๆเรา โดยเฉพาะการคอร์รัปชั่นนั้นไม่ต้องห่วง คุณได้ใช้สิทธินั้นแน่ เพราะมันเป็นทุกข์ร้อนรนตั้งวินาทีที่คิดจะโกงแล้ว   หากอยากได้ของที่ใช้เงินส่วนตัวที่ได้มาโดยชอบนั่นยังไม่น่าห่วงมาก เพราะหากเรามีสติใช้เหตุใช้ผลในการซื้อหาพอสมควร จิตใจไม่ได้มีตัณหาบีบคั้นมากนัก และก็ไม่ได้ไปสั่งสมจิตที่เร่าร้อนจนหนัก   แล้วเหตุเกิดของอสุรกายล่ะ ก็พวก Self จัด กูเก่ง กูแน่ กูรู้หมด นั่งดูทีวีดูข่าวด่าได้ทุกคน โลกนี้ไม่มีใครดีเลย ทั้งๆที่คนพูดแย่กว่าตั้งเยอะ ก็ไม่เห็น   แต่สุดท้าย สัตว์นรก ภูมินี้ไม่น่าไปเป็นอย่างยิ่ง เลี่ยงโทสะนะ หงุดหงิด รำคาญ โกรธเป็นฟืนเป็นไฟ โมโหมือไม้สั่น ด่าเก่ง วีนแตก อาฆาตพยาบาทไม่ให้อภัยใคร แม้เวลาจะเนิ่นนานเพียงไรก็ยังแค้นไม่หาย ภูมินี้น่ากลัวยิ่งนัก ยิ่งถ้าโกรธพ่อโกรธแม่ ครูบาอาจารย์ที่มีพระคุณยิ่งไปกันใหญ่   เพราะฉะนั้นหากการกระทำในทุกวินาทีของเรานั้นเป็นเหตุเกิด   อยากเกิดเป็นอะไรก็ทำเอา แต่ประเภทอยากเกิดดีๆ แต่ทำแย่ๆในแต่ละวัน ขอบอกว่า ผลมาจากเหตุ ทำอย่างไรก็ได้อย่างนั้น ไม่เกี่ยวกับว่าคิดอยากเป็นอะไร   แต่ถ้าไม่อยากเกิดมาทุกข์อีกก็อย่าสร้างเหตุเกิด เมื่อเหตุดับ ผลก็จะดับ   อุปติ สะ(พระสารีบุตร)ฟังคำของพระอัสชิแล้วบรรลุธรรมเป็นพระโสดาบัน จากประโยคที่ว่า "ธรรมเหล่าใดเกิดมาแต่เหตุ พระตถาคตทรงแสดงเหตุและแสดงความดับเพราะหมดเหตุ พระพุทธเจ้าตรัสอย่างนั้น"   ดับเหตุเกิดต้องเจริญมรรค