กล้วภัยพิบัติ กลัวตาย

3 มี.ค. 54 / 1152 อ่าน

ข่าว คราวเรื่องภัยพิบัติมีเยอะ ออกมามากจากหลายแหล่ง จริงไม่จริงผมว่าคงไม่ใช่สาระล่ะ เพราะหากเดือนกันยายนที่ผ่านมาใครมาบอกว่าน้ำจะท่วมสนามบินดอนเมือง วิภาวดีจะกลายเป็นคลองคนกว่าล้านจะต้องอพยพ น้ำหน้าบ้านจะสูงถึงหน้าอก ใครจะเชื่อ? เพราะในชีวิตรุ่นปู่ย่ายังไม่เคยเกิดให้เห็นเลย..เพ้อเจ้อ ถึงตอนนี้แล้วยังไง เราอยู่กับคิด โดยจริงไม่ขึ้นกับคิด คิดถูกก็ไม่ได้แปลว่าอะไร คิดผิดก็ไม่เกี่ยวกับสิ่งที่จะเกิด ถ้าเขาจะเกิดก็คงไม่เกิดตามความเห็นถูกหรือเห็นผิดของใครเลย เขาเกิดตามเหตุ หากเกิดภัยพิบัติจริงแบบที่เขาพยากรณ์ กัน ทุกคนหนีตาย กลัวตาย ดิ้นรนถามว่าจะไปอยู่ที่ไหน? อยู่ที่ไหนก็ตายอยู่ดี(หรือไม่จริง) หากไม่กล้วตายอยู่ที่ไหนก็ไม่กลัวตาย ทำไมเรากลัวตายกันจัง ท่านเกิดวันที่เท่าไหร่? (สมมุติว่า 1 ม.ค.พ.ศ.....)ผมถามว่าก่อน 1 ม.ค.นั้นท่านอยู่ที่ไหน? อยู่ในท้องแม่ ก่อน 1 ม.ค.ไปเก้าเดือนอยู่ไหนก่อนมาอยู่ในท้องแม่ คงเป็นวันตายของชาติก่อนหน้านั้นแต่เป็นอะไรไม่รู้ แล้วถอยไปจนถึงวันเกิดในชาติก่อน แล้วถอยต่อไปก่อนวันเกิดในชาติก่อนล่ะ ก็คงเป็นวันตายของชาติก่อนหน้านั้นไปอีก......... เอาล่ะทีนี้ถ้าหากท่านตายในเหตุการณ์ภัยพิบัติ 2012 จริง วินาทีหลังจากตายท่านจะเป็นอย่างไรต่อ?....เกิด พอเกิดแล้วยังไง ก็คงดำเนินชีวิตต่อไป... จนถึงเมื่อไหร่?..จนตาย แล้วหลังจากตายล่ะ?....เกิด จะเกิดเป็นอะไรไม่รู้ล่ะ ขนาดมนุษย์ก็ยังทุกข์กันขนาดนี้ กลัวไม่มีที่สิ้นสุด หากอยู่ในทุคติภูมิก็คงยิ่งลำบาก ถ้าอยู่บนสวรรค์ใกล้วันสุดท้ายก็คงรู้สึกไม่ต่างจากตอนนี้หรอก การเกิดทุกคราวเป็นทุกข์ร่ำไป... อย่างห่วงเรื่องตายเลยเพราะแค่ 2 ขณะจิตก็เกิดใหม่แล้ว ห่วงว่าทำอย่างไรจะไม่เกิดดีกว่า..ที่ผ่านมายังไม่พออีกหรือ?