จิตอาสา ปีนึงทำกี่ทีถึงจะดี?

3 มี.ค. 54 / 1313 อ่าน

เสาร์อาทิตย์นี้ไปกรอกถุงทราย ไปปั้น EM Ball ไปช่วยแจกของ สาธุ..   จิตอาสานั้นหากช่วยให้คนไม่เคยทำได้มี สำนึก ฝึกที่จะทำเพื่อวันข้างหน้าทำสิ่งนี้จนเป็นนิสัย ทำจนทำได้ในชีวิตของตนเอง จนฝังรากลึกเป็นบารมีต่อๆไป นั่นต้องอนุโมทนาดังๆ   ผมไม่ขวางโลกหรอก ผมยินดีในการเห็นทุกคนออกไปทำความดี ถึงจะออกไปทำเอาหน้าบ้าง เห็นคนอื่นทำก็เลยทำบ้าง เอาไว้มีอะไรลงเฟสให้เพื่อนๆอนุโมทนากันบ้าง นั่นก็ยังดีกว่าไม่ช่วยอะไรใคร วันๆเอาแต่แสวงหาใส่ตน เพราะไม่ว่าใครก็ตามเมื่อทำไปแล้ว ก็จะได้ไปเห็นว่าผู้รับเขาได้พ้นจากทุกข์ทางกายบ้าง มีใจที่แช่มชื่นขึ้นบ้างว่าเพื่อนๆไม่ทอดทิ้งกัน จนผู้ให้เองก็เกิดปีติจากการให้   ผมเคยมีผู้ปฏิบัติมาเล่าให้ฟังว่า เขาเห็นคนใส่บาตร เขาจึงเริ่มใส่บาตร เมื่อใส่บาตรในวันแรกเขามีความสุขมาก จากนั้นเขาใส่บาตรทุกวัน ติดต่อกัน 6 เดือน แต่แล้ววันหนึ่งเป็นวันที่ทุกอย่างเปลี่ยนแปลง เขาใส่บาตรเหมือนเดิม แต่ใจเขาไม่มีความสุขเหมือนเคย จากวันนั้น เขาจึงตัดสินใจเลิกใส่บาตร นี่คือเรื่องจริงที่เกิดแน่ๆกับใครก็ได้ เพราะอาการทั้งหลายนั้นเป็นเพียงของเกิดๆดับ   เรา ทำดีเพราะอะไร เพราะอยากให้ตัวเองได้บุญ อยากให้ตัวเองมีความสุข วันที่เราไม่ได้รับความสุขเราเลิก เพราะ "เราเห็นแก่ตัว ทำบุญก็เห็นแก่ตัว เอาของไปให้เขาแต่แอบเอาเหมือนเดิม" "เราเคยให้อะไรใครจริงๆบ้างไหมชีวิตนี้ เคยปรารถนาว่าการกระทำของเราจะทำให้ผู้อื่นพ้นทุกข์จริงๆบ้างไหม?   ในการทำจิตอาสาในยุคปัจจุบันนี้ กำลังกลายเป็นรูปแบบหรือแฟชั่น ดีไหม..ดี..แต่อย่าไปผิดทาง เหมือนการไปทำบุญวันสำคัญ แต่ในชีวิตประจำวันไม่ทำ อยากรู้ไหมว่ารูปแบบของจิตอาสาจริงๆถ้ายกตัวอย่างสักคนก็ ยายยิ้มนั่น แหละ (หาอ่านดูจากหัวข้อสื่อธรรมะวิดีโอหรือ you tube) ยายยิ้มนี่ล่ะจิตอาสา ทำไปเรื่อยๆ ทั้งชีวิต ไม่เปลี่ยนแปลง ไม่ได้รอกล้อง ไม่สนใจว่าใครจะเห็นไหม ทำเพราะมุ่งมั่นว่าสิ่งนี้ดี สิ่งนี้เป็นประโยชน์   วันหนึ่งที่มีผู้คนเข้าไปเห็นนำเรื่อง ราวมาบอกกล่าว แล้ววันนี้สิ่งนั้นก็ผ่านไป เธอก็ยังคงทำสิ่งที่เธอทำต่อไป จนถึงวันสุดท้าย เพราะว่า สิ่งนั้นดีมีประโยชน์ ถ้าจะได้อะไรมาที่ผู้ทำบ้างก็คือ ลดตัวลดตน นั่นก็เกินพอแล้วเพราะหมดเมื่อไหร่ก็หมดทุกข์ ได้โดยไม่ต้องเอา