สัตว์เกิดกลับมาเป็นมนุษย์มีน้อยเพราะไม่รู้อริยสัจ

4 มี.ค. 55 / 1163 อ่าน

คน ที่มาปฏิบีติธรรมก็รู้สึกว่าพวกเขามาทำความดี เพื่อให้ได้บุญเพื่อให้มีชีวิตที่ดี ส่วนคนไม่มาก็ไม่คิดว่าจะมีปัญหาอะไรอยู่แล้ว ถึงจะไม่ได้ดีหรือได้บุญแบบที่คนมาปฏิบัติแต่ก็ไม่เดือดร้อนอะไร ฉันก็สบายดี เทียบง่ายๆเหมือนกับว่าถ้ามาปฏิบัติ ธรรมก็จะได้คะแนนเพิ่มตั้งแต่ บวก1-10 แต้ม ถ้าไม่มาก็เสมอตัวที่ 0 ก็โอเคฉันทำดีให้ทานตรงอื่นเติมเอาบ้างก็ได้ แต่เชื่อไหมว่าทุกคนคิดผิด ที่เราว่าเราดีอยู่แล้วนั่นน่ะ เราติดลบอยู่ทุกคนเลยและไม่ใช่แค่ติดลบธรรมดา กำลังสั่งสมคะแนนลบมากขึ้นแบบไม่หยุดหย่อนด้วย ไม่เชื่อฟังพุทธพจน์บทนี้ดูก่อน   ภิกษุท.! เธอท้ังหลายจะสําคัญความข้อนี้ว่าอย่างไร: ฝุ่นนิดหนึ่ง ท่ีเราช้อนขึ้นด้วยปลายเล็บนี้ กับมหาปฐพีนี้ข้างไหนจะมากกว่ากัน ? “ข้าแต่พระองค์ผ้เูจริญ ! มหา ปฐพีนั่นแหละเป็นดินที่มากกว่า. ฝุ่นนิดหนึ่ง เท่าที่ทรงช้อนขึ้นด้วยปลายพระนขานี้ เป็นของมีประมาณน้อยฝุ่นนั้นเมื่อนำเข้าไปเทียบกับมหาปฐพี ย่อมไม่ถึงซึ่งการคำนวณได้ เปรียบเทียบได้ ไม่เข้าถึงแม้ซึ่งกะละภาค (ส่วนเสี้ยว) ” . ภิกษุท.! อุปมานี้ฉันใด อุปไมยก็ฉันนั้น: สัตว์ที่เกิดกลับมาสู่หมู่มนุษย์มีน้อย; สัตว์ที่เกิดกลับเป็นอย่างอ่ืนจากหมู่มนุษย์มีมากกว่าโดยแท้. ข้อน้ันเพราะเหตุไรเล่า ? ภิกษุ ท. ! ข้อนั้น เพราะความที่สัตว์เหล่าน้ันไม่เห็นอริยสัจทั้งสี่. อริยสัจสี่ อย่างไรเล่า ? สี่อย่างคือ อริยสัจคือ ทุกข์ อริยสัจคือเหตุให้เกิดขึ้นแห่งทุกข์ อริยสัจคือความดับไม่เหลือแห่ง ทุกข์ อริยสัจคือทางดําเนินให้ถึงความดับไม่เหลือแห่งทุกข์.   ที่เราว่าเราดีเนี่ยะ เราโกรธไหม โลภไหม หลงไหม ถ้ายังมี โลภะ โทสะ โมหะ นั่นแปลว่ามีเหตุเกิดของ สัตว์นรก เปรตอสุรกาย เดรัจฉานอยู่ เราคงไม่ได้มีสติใจกุศลตลอดใช่ไหม นั่นล่ะที่จะทำให้มนุษย์กลับมาเป็นมนุษย์น้อยเหลือเกิน จะทำอะไรก็ทำเถิด แต่อยากให้เห็นความจริงกันไว้บ้าง นรกสวรรค์ไม่ได้ไปด้วยความเชื่อ ใครจะเชื่อว่าอะไรก็ได้ เช่นใครจะเชื่อว่าโลกนี้แบน โลกนี้เป็นสี่เหลี่ยม หรือจะเชื่อว่าโลกนี้กลม โลกนี้ก็ไม่ได้ชื่นชมหรือหืออือด้วย ธรรมชาติเขาเป็นของเขาอย่างนี้ ไม่ได้มีใครมาจัดการอะไร ไปเพราะมีเหตุ หมดเหตุก็หมดกัน