ความเป็นกู เป็นของกู...

4 มี.ค. 55 / 1131 อ่าน

เราทุกคนมีสิ่งหนึ่งที่เหมือนกันทุกคนที่บดบังสิ่งดีๆที่เป็นกุศลในตัวของทุกๆคนถ้าจะพูดว่าตัวกู โมหะมันก็ฟังเป็นตัวหนังสือ ไม่เข้าใจ   พ่อแม่เลี้ยงดูแลลูก ให้เงินลูก เชื่อไหมว่าวันแรกลูกรู้สึกว่าพ่อแม่ดีกับเรา รักเรา แต่เมื่อเวลาผ่านไปสักพักเดียวโมหะจะครอบงำทั้งหมด จะกลายเป็นพ่อแม่มีหน้าที่ต้องให้เงินเรา ถ้าวันไหนพ่อแม่มีไม่พอวันนั้นพ่อแม่โกงเงินส่วนของเขาไป...เงินที่พ่อแม่ ให้ไม่เป็นไปเพราะความรักเมตตาต่อลูกแล้ว แต่มันกลายเป็นเงินของกู(ในมุมมองลูก)   วัน แรกที่บริษัทหรือหน่วยงานรับท่านเข้าทำงาน วันนั้นเท่าไหร่ก็ได้ ยังไงก็ได้ เขาใจดีนะที่ให้เราเข้ามา เงินเดือนๆแรกคือสิ่งที่เราไม่เคยได้มาก่อน นี่เป็นสิ่งที่ได้เพิ่มมาจากชีวิตของเรา แต่จากนั้นไม่นานมันคือของกู กูขาดมันไม่ได้ แถมยังควรให้ๆมากกว่านี้เพราะธรรมชาติของโลก เมื่อสิ่งนี้เพิ่มเข้ามามันจะสร้างเหตุปัจจัยใหม่เพื่อให้สมดุลย์กับสิ่ง ใหม่นั้น แต่คำว่าสมดุลย์มันก็ไม่สมดุลย์หรอกเพราะมีโลภะ มีตัณหา มันจึงทะยานขึ้นไปเกินกว่าที่ควรเป็น เมื่อมีเหตุให้ไม่ได้เงินนั้นมา ก็กลายเป็นสภาพทุกข์เพราะไปสร้างสมดุลย์ใหม่ไว้ที่เงินก้อนนั้นอีก นี้จึงเป็นความประมาท   วัน ไหนที่เอาเงินไปลงทุนทำอะไร ครั้งแรกจะรู้สึกว่าได้มาฟรีๆ แต่พักเดียว หากมันน้อยกว่าที่เคยได้มันก็จะทุกข์ดิ้นรนเพราะเงินนั้นถูกยึดเป็นของกูไป เสียแล้ว ใจไม่สงบอีก   คนจนได้เงินเพิ่มขึ้นมาเล็กน้อย ดีใจมาก คนรวยได้เงินเพิ่มขึ้นมามาก ดีใจน้อย คนรวยเสียเงินแม้เพียงเล็กน้อย ทุกข์ใจมาก   ไม่ มีใครพ้นไปจากความเป็นทาส"เงิน" เศษกระดาษที่ไม่ถึงครึ่งของ A4 ให้ค่าบ้าตัวเลขในBookbank กันจนนั่งยิ้มหรือหน้าเศร้าไปกับเศษกระดาที่มาเย็บเป็นเล่มที่ไม่ถึงA4 อีกเช่นกัน เมื่อทุกอย่างในโลกถูกดึงมาเป็นกูเป็นของกู ก็ถึงเวลาแห่งความทุกข์ต่อไป Showtime !!!