หลายคนปรารถนาจะได้ไปปฏิบัติธรรมแต่เนื่องด้วยงานบ้าง ครอบครัวต้องดูแลบ้าง
หลายคนปรารถนาจะออกบวชแต่ยังทำไม่ได้เนื่องจากสภาพการบางอย่าง
หลายคนยิ่งกว่า ไม่ได้รู้สึกทั้งสองอย่างข้างต้นเลยฉันสุขสบายดีไม่เห็นทุกข์อะไร
คุณค่าของชีวิตคืออะไร
ทำงานให้เต็มที่ดีที่สุด?
เลี้ยงลูกให้ดีที่สุด?
ปฏิบัติธรรม?
บวช?
อยู่ในสำนักปฏิบัติ?
มีชีวิตเพื่อผู้อื่น ช่วยผู้อื่นให้พ้นทุกข์อย่างเต็มกำลัง?
หลุดพ้น?
เรื่องนี้หากพูดแบบโลกๆก็คงเป็นไปตามเหตุตามผลของแต่ละคนที่จะคิด ในเมื่อชีวิตของทุกคนมีความตายเป็นที่สุดรอบ นั่นจึงแปลว่าเวลาของแต่ละคนเหลือกันอยู่ภายใต้ช่วงเวลาหนึ่งเท่านั้นซึ่งนั่นกำลังนับถอยหลัง ขณะที่กำลังอ่านนี้ก็กำลังนับถอยหลังอยู่
เวลาเขานับถอยหลังการจัดกีฬาโอลิมปิค เขาเอาเวลาในชีวิตเราไปนับด้วย ทุกเทศกาลแห่งการนับถอยหลัง เวลาของเราถูกนับไปด้วย ที่น่าสนุกและตื้นเต้นอย่างยิ่งคือเราไม่รู้ว่าพิธีปิดโอ้ชีวิตของเรามันจะอยู่ที่วินาทีไหน ดังนั้นทุกวินาทีจึงเป็นเวลาที่เหลืออยู่และมีค่าเป็นอย่างยิ่ง
การทำชีวิตให้มีค่าจริงๆในการปฏิบัติเริ่มตั้งแต่
- มีความเห็นที่ถูกต้อง รู้ว่าอะไรคือทุกข์ อะไรคือเหตุ อะไรคือความดับ อะไรคือหนทางสู่ความดับทุกข์
- ทำทานบริจาคช่วยเหลือสังคม ผู้คน ประเทศชาติและโลก
- การไม่ทำผิดศีล ช่วยเหลือคนให้ได้ธรรมะได้พ้นทุกข์เท่าที่ทำได้ ดูแลครอบครัวให้ดี
- การชำระอกุศลในใจ การกระทบในชีวิตประจำวันละอารมณ์ให้ได้ไวไว
- เจริญกุศลให้มาก เดินเหินหยิบจับเข้าห้องน้ำมีสติสัมปชัญญะไว้ให้มาก จนจิตตั้งมั่นในระดับต้นๆ
- จนรู้ได้ว่ากายนี้ใจนี้เกิดๆดับๆไปทุกๆขณะ เราเข้าไปยึดถือก็เป็นทุกข์
- ศึกษาและปฏิบัติให้ต่อเนื่องทำในชีวิตประจำวันนี่ล่ะ ใครจะบวช ใครจะอยู่ในคอร์ส อยู่ในป่าก็จิตดวงนี้ล่ะ ถ้าเผลอเพลินหลงไหล อยู่ไหนๆก็พอกัน คนป่าคนดอยก็มีมาก ทหารฝึกอยู่กินลำบากในป่า หมอผ่าตัด สัปเหร่อเผาผี คนยากคนจน ยาจกเข็ญใจ มีใครบรรลุธรรมบ้าง ผมไม่ได้ไปว่าใครนะ แต่อยากจะให้พวกเราเห็นคุณค่าที่เรากำลังมีอยู่ว่า การจะเข้าถึงธรรมนั้นใช้ปัญญา แน่นอนต้องมี ศีลและสมาธิเป็นบาทฐานให้ครบไตรสิกขา(มรรคมีองค์๘) แล้วในชีวิตประจำวันนี้ทั้งศีลและสมาธิทำไม่ได้หรือ?(ถ้าตอบว่าไม่ได้ ก็ต้องหาอุบายให้ตนเองเพื่อให้เกื้อกูล) ตราบใดที่ยังอยู่เป็นฆราวาสอยู่นี้ จงมั่นใจเถิดว่า ปัญญา ศีล สมาธิเพียงพอที่จะเห็นธรรมและปฏิบัติภาวนาจนถึงธรรมได้ แต่ต้องเดินตามมรรค อย่าคิดเองแล้วดึงธรรมเข้าหาความคิดเราก็แล้วกัน
ปัญญา ศีล สมาธิอยู่ที่จิต หลุดพ้นที่จิต ปล่อยวางที่จิต การกระทำทั้งหลายเพียงเป็นเครื่องสอนจิต เป็นฐานให้จิตเรียนรู้ หนทางปฏิบัติสู่การบรรลุนิพพานนั้นมีทางเข้าถึงได้โดยรอบ (คำพระพุทธเจ้า) ใช่..นั่นคือวิธีการแต่ทุกวิธีเข้าไปทำให้จิตยอมรับให้ได้ในเบื้องต้นว่า กายใจนี้ไม่ใช่เรา ของเรา จากนั้นลึกเข้าไปเขาจะเข้าใจได้อีกว่า ขันธ์๕ไม่ใช่ของเรา ขันธ์เป็นเพียงที่ตั้งแห่งความยึดมั่น ขันธ์ไม่ได้มาทำให้เรายึดมั่น มีธรรมชาติโง่ที่เรียกว่าจิตเข้าไปยึดขันธ์ด้วยความไม่รู้ แทนที่จะรู้ว่าความโง่ครั้งนี้เป็นเหตุให้ทุกข์..ดั้น..ไปเห็นซะอีกว่าเป็นสุขเสียฉิบ เลยยาวซิงานนี้ เปิดช่องให้กิเลส..จัดเต็ม กิเลสไม่ต้องออกแรงเลยเพราะคลอเคลียนัวเนียเป็นเพื่อนซี้แหงย่ำปึ๊กกัน ไม่เอะใจว่าถูกปอกลอกเลย แล้วจะเหลือเหรอ มันยากตรงนี้ล่ะการปฏิบัติธรรมที่จะเห็นตรงนี้ให้ได้
วันนี้ที่ยากก็ตรงนี้ล่ะ อยู่ตรงไหนถ้าเห็นอย่างนี้ก็ปฏิบัติได้ก็เหมือนกัน ใช่ในชีวิตฆราวาสอาจปฏิบัติยากกว่าเพราะเครื่องฉาบย้อมมันเยอะ แต่ก็ทำได้ไม่ถึงกับทำไม่ได้ อยู่ป่าปฏิบัติง่ายกว่าแต่ถ้าไม่มีปัญญาก็ไม่พ้นหลงสร้างตัวตน เก่งกาจขึ้นมาอีกอยู่ดี ได้ติดมาอย่างหนึ่งคืออดทน ถ้าเอาแค่นี้ไปเป็นทหารเกณฑ์ก็ได้ เดินแล้วได้สมาธิ เด็กปั้นดินน้ำมันก็มีสมาธิ ทุกศาสนาก็มีสมาธิแล้วทำไมไม่หลุดพ้นล่ะ
เพราะเอาสมาธิมาใช้ไม่เป็น เขาไม่เอาสมาธินั้นวกกลับเข้าเห็นให้ได้ว่ากายใจหรือชีวิตนี้เป็นเพียงรูปและนามไม่ใช่ตัวเราของเรา
1 ด้วยการเห็นการเกิดขึ้นดับไปของกายและใจ
2 เพราะเขาไม่เห็นว่ากายใจนี้เป็นทุกข์โดยตัวมันเองเพราะเกิดๆดับ ยิ่งถ้าเข้าไปยึดถือมันมาเป็นของเราเป็นเราก็ทุกข์เข้าไปเต็มเปา
3 เพราะเขาไม่เห็นว่าสรรพสิ่งทั้งโลกทั้งจักรวาลไม่ใช่แค่ตัวเราล้วนเกิดขึ้นมาเพราะมีเหตุและเมื่อหมดเหตุก็ดับไปมีเหตุใหม่ก็เกิดขึ้น เห็นที่ผลก็รู้ว่าเพราะมีเหตุเป็นที่มา ไม่ว่าจะเห็นในระดับใดก็จะเริ่มเบื่อหน่ายคลายความยึดถือลงได้
ดังนั้นการใช้ชีวิตอย่างมีปัญญาเพื่อเดินสู่เป้าหมายอย่างนี้ จึงจะเป็นการเดินทางอย่างทรงคุณค่า ไม่ว่าอยู่ที่ไหนๆก็ล้วนแต่พาไปสู่ความพ้นทุกข์ได้ไม่เสียเวลาแน่นอน
ตกลงต้องไปเข้าคอร์สไหม? ...ต้อง อ้าว เพราะไม่งั้นมือมันจุ่มในน้ำร้อนตลอดจนชินพรากไม่ออกแยกไม่ได้ รู้สึกว่าน้ำร้อนเป็นน้ำธรรมดา อ่านอยู่เนี่ยจุ่มในน้ำอะไร ก่อนหน้านี้วีนใคร นินทาใคร โกรธใครบ้างรึเปล่า ร้อนนะนั่นน่ะ สติเตือนไหม ตั้งมั่นพอไหม (นอกจากคนที่จิตตั้งมั่นจริงๆเห็นว่าน้ำร้อนในขณะที่จุ่มในน้ำร้อนได้เลย อาจไม่ต้อง)
ตกลงต้องบวชไหม? ... บวชหลุดพ้นได้เร็วกว่าเพราะได้เนกขัมมะจากกาม บริสุทธิ์กว่าฆราวาส แต่ไม่ตายตัวนะ เห็นไหมว่า พาหิยะเป็นผูบรรลุธรรมเป็นพระอรหันต์เร็วที่สุดอยู่ไม่ได้เป็นพระในขณะนั้น ขึ้นกับปัญญา บารมี อินทรีย์ที่สั่งสมมาด้วย แต่ก็ขึ้นกับเหตุและปัจจัย แต่ถ้าบวชได้ดีแน่
สรุปแล้วฉลาดที่จะใช้ชีวิต อยู่ตรงไหนทำดีที่สุดตรงนั้น อย่ามัวคิดว่า"ถ้าฉันได้... คงจะอย่างนั้นอย่างนี้ละก้อ ขอให้รู้ว่าคนมีปัญญาจริงเขามุ่งมั่นทำทันที ไม่เคยต้องรอโชคชะตาวาสนาอะไรทั้งนั้น เขาจะบริหารจัดการภายใต้ข้อจำกัดเพื่อให้สัมฤทธิ์ผลเดียวกันให้จงได้