ตัวโอกาส

4 มี.ค. 55 / 1410 อ่าน

มีใครรู้จักตัวโอกาสบ้าง ตัวโอกาสมีลักษณะเฉพาะตัว 1 ด้านหน้ามีขนยาว 2 ด้านหลังผิวเรียบ มัน ลื่น ไม่มีขน 3 เดินหน้าอย่างเดียวไม่มีถอยหลัง ไปแล้วไปเลยไม่มีหวนกลับ จนกว่าตัวใหม่จะมาใหม่ ดังนั้นหากเราต้องการจะจับตัวโอกาส มีทางเดียวคือดักจับมันตอนมันเดินเข้ามาใกล้ จนกระทั่งถึงตัวเรา แต่หากมันพ้นไปแม้นเพียงเล็กน้อยก็จะไม่สามารถจับได้อีกเลยเพราะตัวมันลื่นไม่มีขน และมันจะไม่กลับมาอีก ที่จะมีมาก็เป็นตัวใหม่ ซึ่งไม่รู้ว่าจะมาอีกครั้งเมื่อไหร่ เพราะเหตุนี้ โอกาสของชีวิตไม่ว่าเรื่องใดๆก็ตาม เราอาจไม่รู้เลยว่าตัวโอกาสกำลังเดินมาแล้วกำลังจะผ่านไปแล้ว หากเราไม่คอยสังเกตหรือตัดสินใจให้ดี เราก็จะพลาดโอกาสไปอย่างน่าเสียดาย อย่างเรื่องเล่าในสมัยพุทธกาลเรื่องหนึ่ง ครั้งนั้นพระพุทธองค์ทรงเสด็จบิณฑบาตไปกับพระอานนท์ ได้ทอดพระเนตรเห็นขอทานแก่ชายหญิงคู่หนึ่งยืนอยู่ข้างทาง พระองค์ทรงแย้มพระสรวล พระอานนท์จึงเดินเข้าไปทูลถามว่า มีอะไรหรือ พระเจ้าค่ะ พระองค์จึงเล่าให้พระอานนท์ฟังว่า ขอทานแก่สามีภรรยาคู่นี้ สมัยก่อนเป็นลูกเศรษฐี ครั้งพอเศรษฐีตายได้รับมรดกเป็นทรัพย์เป็นอันมาก หากเขาทำมาหากินตั้งแต่ตอนนั้น บัดนี้เขาจะเป็นมหาเศรษฐีอันดับหนึ่งของอินเดีย ภรรยาก็จะเป็นมหาเศรษฐีอันดับสองของอินเดีย แต่หากเขาออกบวชวันนั้นเขาจะเป็นพระอรหันต์ ภรรยาจะเป็นพระอนาคามี แต่เขาทั้งสองกลับไม่ทำอะไรกินใช้ในทรัพย์ที่มีอยู่ ด้วยคิดว่ามันมีมากจนไม่มีวันหมด ครั้นมาถึงวัยกลางคน หากทั้งสองเริ่มทำมาหากินในตอนนั้น สามีจะเป็นมหาเศรษฐีอันดับสองของอินเดีย ภรรยาจะเป็นมหาเศรษฐีอันดับสาม แต่หากทั้งสองตัดสินใจออกบวช สามีจะเป็นพระอนาคามี ส่วนภรรยาจะเป็นพระสกทาคามี ทั้งสองก็มิได้ทำอะไรจนกระทั่งถึงคราวที่อายุมากแล้ว ถ้าเขาตัดสินใจเริ่มทำงานในตอนนั้นเขาก็จะเป็นเศรษฐีอันดับสามและภรรยาเป็นเศรษฐีอันดับสี่ แต่หากเขาออกบวชสามีจะเป็นพระสกทาคามี ภรรรยาเป็นพระโสดาบัน แต่เขาปล่อยเวลาล่วงเลยมาจนถึงวันนี้ เขาหมดสิ้นทุกอย่างแล้ว แม้นออกบวชก็ไม่ได้แล้วเพราะปล่อยตนเองจนแก่ชราไม่สามารถทำความเพียรใดๆได้อีก น่าอนาถยิ่งนักกับเศรษฐีผู้กลายเป็นยาจก แต่นั่นยังไม่น่าเสียดายเท่าการพลาดโอกาสในการฟังธรรม ประพฤติปฏิบัติธรรม เรามามองความจริงที่ยิ่งไปกว่านั้นอีกว่า ต่อให้เป็นเศรษฐีอันดับไหนๆก็ตามแล้วอย่างไรหรือ? ก็แค่มีกินมีใช้ยังชีพไปเท่านั้นเอง วันนี้ทุกคนตืื่นแต่เช้าฝ่ารถติดไปนั่งสร้างอกุศลบ้าง กุศลบ้างแล้วก็หาอะไรใส่ท้อง แล้วก็ฝ่ารถติดกลับมานอน เช้ารีบตื่น...แล้วก็ทำซ้ำเหมือนเดิม......ยิ่งถ้าชีวิตสร้างอกุศลด้วยโลภ โกรธ หลง สั่งสมไว้มากๆนั่นคือขาดทุนแล้วในโอกาสที่ได้เกิดเป็นมนุษย์ สุดท้ายที่ว่าเพื่อเงินนั้นแม้นสักบาทยังเอาติดไปไม่ได้ ที่ได้ไปด้วยก็มีแต่บุญทานการกุศลหรือบาปอกุศลที่จะเอาติดไปได้ ดังนั้นตัวโอกาสที่น่าเสียดายเป็นอย่างยิ่งคงไม่ใช่โอกาสทางธุรกิจหรอก เพราะหากเป็นนักธุรกิจตัวจริงคงไม่ประมาทลงทุนเฉพาะแต่บริษัทในตลาดหลักทรัพย์เท่านั้น เขาคงจะต้องหาทางลงทุนในบริษัทข้ามชาติเอาไว้ด้วย แต่ที่น่าเสียดายจริงๆกลับเป็นโอกาสในการจะรู้แจ้งอริยสัจ๔ต่างหาก เพราะวันนี้คนไม่รู้ว่าอะไรคือสิ่งสำคัญของชีวิตกันแน่